แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. นิยาม

          “กรม” หมายความว่า กรมป่าไม้

          “บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดา

          “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประกันสังคม เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่รวมถึงข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล เช่น ชื่อนิติบุคคล ที่อยู่ของนิติบุคคล เลขทะเบียนนิติบุคคล หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมลของนิติบุคคล ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม และข้อมูลนิรนาม (Anonymized Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค เป็นต้น

          “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มี   ความละเอียดอ่อนและอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) นั้น มีความเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลภาพถ่ายของบุคคล และข้อมูลชีวภาพต่างๆ เป็นต้น

          “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)” หมายความว่า บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นบ่งชี้ไปถึงและทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ แต่ไม่ใช่บุคคลที่เป็นเจ้าของสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลที่เป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น และไม่รวมถึงนิติบุคคล เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

           (1) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ หมายความว่า บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือผู้ที่สมรสตั้งแต่อายุ 17 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือผู้ที่สมรสก่อนอายุ 17 ปี โดยศาลอนุญาตให้ทำการสมรสหรือผู้เยาว์ซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมให้ความยินยอมในการประกอบธุรกิจทางการค้าหรือธุรกิจอื่น หรือในการทำสัญญาเป็นลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงานในความเกี่ยวพันกับการประกอบธุรกิจหรือธุรกิจอื่นดังกล่าว ทำให้ผู้เยาว์มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บรรลุนิติภาวะนั้น สามารถให้ความยินยอมใดๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยตนเอง
          (2) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้เยาว์ หมายความว่า บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บรรลุนิติภาวะตาม (1) โดยการให้ความยินยอมใดๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
          (3) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ หมายความว่า บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ เนื่องจากมีกายพิการหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่าย เสเพล เป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น จนไม่สามารถจะจัดทำการงานโดยตนเองได้หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว โดยการให้     ความยินยอมใดๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์   ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ
          (4) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นคนไร้ความสามารถ หมายความว่า บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เนื่องจากเป็นบุคคลวิกลจริต โดยการให้ความยินยอมใดๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ
         การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ย่อมไม่มีผลผูกพันเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

          “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยกรมในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินงานตามภารกิจต่างๆ ถือได้ว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตามนัยของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ด้วย

          “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งทำการประมวลผลข้อมูล   ส่วนบุคคลในนามหรือตามคำสั่งของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่กรมมีสัญญาจ้างบุคคลอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กรม จะถือว่าบุคคลหรือนิติบุคคลนั้นเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กรมตามนัยของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

          “คุกกี้ (Cookies)” หมายความว่า ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการเข้าถึงเว็บไซต์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์เครื่องแม่ข่ายส่งไปเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้ในการเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ และให้หมายความรวมถึงเทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะเดียวกับคุกกี้ (Cookies) ด้วย

2. นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    2.1 การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

         2.1.1 กรมเคารพในสิทธิและเสรีภาพของส่วนบุคคลตามกฎหมาย รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญ  ของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น กรมจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเมื่อกรมมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าในรูปแบบเอกสาร ฟิล์ม ภาพ หรือเสียง หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

          2.1.2 กรมจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่เป็นการดำเนินการทางกายภาพและด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การปฏิบัติตามภารกิจของกรม และภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เท่านั้น

          2.1.3 ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล กรมจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือระหว่างการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีที่เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

                   (1) เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยมีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลนิรนาม เป็นต้น
                   (2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้
                   (3) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งของสัญญาจ้าง หรือเป็นเงื่อนไขของโครงการการจัดซื้อจัดจ้าง หรือเป็นเงื่อนไขของสัญญาการขอรับทุน เป็นต้น
                   (4) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรม เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าว มีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
                   (5) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยกรมจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่
                        ก. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
                        ข. เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของกรม ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรตามวัตถุประสงค์ โดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอก
                        ค. เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
                        ง. เพื่อประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งกรมได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจง เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่และจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
                        จ. เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ กรมจะกระทำเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และได้จัดให้มีมาตรฐานที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยแล้ว
                        ฉ. เพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ โดยกรมได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยแล้ว

          2.1.4 นโยบายด้านคุกกี้ (Cookies)

                   (1) กรมและบุคคลอื่นอาจใช้เทคโนโลยีคุกกี้ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเข้าถึง การใช้งาน หรือการรับบริการผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของกรม เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในการเข้าถึง การใช้งาน หรือการ รับบริการผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของกรม เช่น การบันทึกภาษาที่เลือกใช้ หรือการตั้งค่าอื่นๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชมเว็บไซต์ในครั้งถัดไป โดยเว็บไซต์จะจดจำว่าเป็นผู้ที่เคยเข้าใช้บริการแล้ว และตั้งค่าเพื่อให้บริการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะลบหรือยกเลิกการอนุญาตให้ใช้คุกกี้ นอกจากนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยอมรับหรือไม่ยอมรับให้มีการใช้คุกกี้  ก็ได้ และในกรณีที่เลือกไม่ยอมรับให้มีการใช้คุกกี้ เว็บไซต์ของกรมอาจจะไม่สามารถให้บริการหรือไม่สามารถแสดงผลในทุกกรณีได้อย่างสมบูรณ์
                   (2) กรมอาจใช้วิธีการอัตโนมัติในการอ่านหรือบันทึกข้อมูลลงในอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงคุกกี้ เว็บเบราว์เซอร์ หรือปลั๊กอินต่างๆ เช่น ที่เก็บ HTML หรือ ฐานข้อมูลแบบ Flash เป็นต้น โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเลือกตั้งค่าเว็บเบราว์เซอร์ให้ปฏิเสธการให้จัดเก็บคุกกี้บางประเภท หรือให้แจ้งเตือนในกรณีที่มีการส่งคุกกี้บางประเภทได้ ซึ่งเว็บเบราว์เซอร์บางตัวอาจถูกตั้งค่าที่คล้ายกันได้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเลือกไม่ยอมรับให้มีการใช้คุกกี้ เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน    ของกรมอาจไม่สามารถให้บริการหรือไม่สามารถแสดงผลในทุกกรณีได้อย่างสมบูรณ์
                   (3) ในการบริการจัดการความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะเป็นไปตามคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีบริหารจัดการความเป็นส่วนตัวตามที่ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์สื่อสารไร้สายนั้นๆ กำหนดไว้ เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับการระบุอุปกรณ์และตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้ด้วยตนเองที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย เป็นต้น

    2.2 คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล

         2.2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมอาจเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยต่อบุคคลอื่น เช่น ชื่อ สกุล อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน มีคุณภาพ และถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน   ของกรมเท่านั้น ทั้งนี้ กรมจะจัดให้มีกระบวนการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้มีคุณภาพ เพื่อให้กระบวนการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหรือมาตรฐานสากล

        2.2.2 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

                (1) กรมจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงเท่านั้น เว้นแต่เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมได้รับยกเว้น ไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย
                (2) ในกรณีที่กรมมีเหตุผลความจำเป็นอย่างอื่นทำให้ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง กรมจะต้องแจ้งเหตุผลความจำเป็นที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ เพื่อขอความยินยอมให้กรมดำเนินการดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันเริ่มดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่การเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้ กรมไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
                      ก. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบวัตถุประสงค์และเหตุผลความจำเป็นที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงอยู่แล้ว
                      ข. กรมพิสูจน์ได้ว่าการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ไม่สามารถกระทำได้หรือจะเป็นอุปสรรคต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ และในกรณีนี้ ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยแล้ว
                      ค. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต้องกระทำโดยเร่งด่วนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกรมได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยแล้ว
                      ง. เมื่อกรมได้มาหรือรับรู้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด และมีเหตุผลความจำเป็นบางประการในการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนำไปใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการจัดทำเอกสาร ประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษาวิจัย สถิติ ซึ่งกรมได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยแล้ว อย่างไรก็ตาม กรมจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการดังกล่าวนี้
                (3) กรมอาจทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และนำไปผนวกเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมได้รับมาจากแหล่งอื่น เฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และประสิทธิภาพการให้บริการของกรมให้ดียิ่งขึ้น

     2.3 การระบุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          2.3.1 กรมจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการดำเนินงานในพันธกิจต่างๆ ของกรม รวมทั้งเพื่อการศึกษาวิจัยหรือการจัดทำสถิติที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์  การดำเนินงานของกรมตามที่กฎหมายกำหนด และเพื่อการปรับปรุงคุณภาพการบริหารงานและการให้บริการของกรม

          2.3.2 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล กรมจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน โดยกรมจะจัดให้มีการบันทึกความยินยอมไว้เป็นหลักฐาน

          2.3.3 ในกรณีที่กรมมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2.3.1 และข้อ 2.3.2 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะยินยอมหรือไม่ให้ความยินยอมให้กรมดำเนินการดังกล่าวก็ได้

          2.3.4 ในกรณีที่กรมมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน กรมจะจัดให้มีการบันทึกข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย Log Files หรือด้วยเทคโนโลยีอื่นที่เหมาะสม โดยจัดเก็บข้อมูลอย่างน้อยดังต่อไปนี้

                 (1) หมายเลขไอพี (IP Address)
                 (2) ประเภทของโปรแกรมเบราว์เซอร์ (Browser)
                 ทั้งนี้ กรมอาจใช้บริการหน่วยงานภายนอก เพื่อให้จัดเก็บบันทึกการเข้าออกระบบให้บริการ   ทางเว็บไซต์ด้วยก็ได้ อย่างไรก็ตาม กรมจะไม่กระทำการใดๆ ที่เกินขอบเขตตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

       2.4 ข้อจำกัดในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้

              2.4.1 กรมจะใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของกรม หรือมีฐานทางกฎหมายอื่นรองรับเท่านั้น

              2.4.2 กรมจะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของกรมไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดแก่บุคคลอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามภารกิจของกรม เว้นแต่

                      (1) ได้รับความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
                      (2) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยมีมาตรการปกป้องข้อมูล   ส่วนบุคคลที่เหมาะสมสำหรับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลนิรนาม เป็นต้น
                      (3) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
                      (4) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างหรือการขอรับทุน
                      (5) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรม เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าว        มีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
                     (6) เป็นกรณีที่กรมต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือตามข้อกำหนดของผู้มีอำนาจสั่งการตามกฎหมาย

               2.4.3 การเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก

                        (1) ในกรณีที่กรมมีความจำเป็นต้องเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก กรมจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนดำเนินการ โดยมีรายละเอียดของข้อมูลที่จะแจ้งและขอคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างน้อยต้องประกอบด้วย

                            ก. บุคคลหรือหน่วยงานที่จะทำการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
                            ข. วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
                            ค. วิธีการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
                            ง. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเปิดเผยผ่านการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศนั้น
                            จ. บุคคลซึ่งมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

                       (2) ในการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก กรมจะแสดงชื่อผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและบุคคล ซึ่งมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอย่างชัดเจน เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบ นอกจากนี้ กรมจะจัดให้มีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นหลักฐานด้วย
                       (3) ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล  กรมจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการทุกครั้ง

                2.4.4 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

                          เมื่อกรมได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว กรมจะบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้หลักการดังต่อไปนี้

                           (1) ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของกรมจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการสั่งการตามกฎหมายเท่านั้น
                           (2) กรมจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
                           (3) กรมจะจัดให้มีบันทึกรายการกิจกรรมการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไว้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด
                          (4) ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นบุคคลภายนอก ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้รับแจ้งจากกรมเท่านั้น ทั้งนี้กรมจะจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกรมกับผู้ประมวลผลข้อมูล เพื่อควบคุมการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย

     2.5 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

           2.5.1 กรมตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น กรมจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่กรมกำหนด

           2.5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมดำเนินการเก็บรวบรวม เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถบ่งบอกตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของกรม ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และกรมจะจัดให้มีมาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายด้วย

            2.5.3 การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
                     กรมจะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ หรือที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เพิกถอนความยินยอม เว้นแต่การเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ หรือเพื่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกรมจะได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

    2.6 การเปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

          2.6.1 กรมจะเปิดเผยและเผยแพร่การดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ของกรม และผ่านสื่อที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ กรมจะพิจารณาทบทวนการดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อกำหนดและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการแนวปฏิบัติ และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นสาระสำคัญ กรมจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ใช้บริการทราบด้วยการจัดทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และเปิดเผย รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของกรม และผ่านสื่อที่กรมใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสมด้วย

           2.6.2 การดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมประกาศใช้นี้ จะใช้เฉพาะสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการของกรม ซึ่งรวมตลอดถึงการบริหารงาน การให้บริการ และการเข้าถึงเว็บไซต์ของกรมเท่านั้น หากผู้ใช้บริการมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ปรากฏในเว็บไซต์อื่นนั้นแยกต่างหากจากกรมด้วย

            2.6.3 กรมจัดให้มีช่องทางการติดต่อสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ใช้บริการ ดังต่อไปนี้

                      (1)  ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
                            หน่วยงาน : กรมป่าไม้
                            ที่อยู่ : 61 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
                            โทรศัพท์ : 0 2561 4292-3 ต่อ 5754 , 5621
                            Website : https://www.forest.go.th
                            E-mail : [email protected]

                       (2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO)
                             รองอธิบดีกรมป่าไม้ที่กำกับดูแลศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
                             ที่อยู่ : 61 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
                             โทรศัพท์ : 0 2561 4292-3 ต่อ 5754, 5621
                             E-mail : [email protected]

                       (3) ในกรณีที่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานของกรม ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
                             หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
                                                 สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
                             ที่อยู่ : ชั้น 7 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ
                                        ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
                             โทรศัพท์ : 0 2142 1033
                              E-Mail : [email protected]

      2.7 การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

            2.7.1 กรมจะจัดช่องทางให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถตรวจสอบความมีอยู่และความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสามารถแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้ตามความเหมาะสม เช่น เว็บไซต์ของกรม บุคลากรผู้ปฏิบัติงานของกรม หรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม

           2.7.2 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้

                     (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเคยให้ไว้แก่กรมได้ตามที่กฎหมายกำหนด
                     (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง และอาจขอให้กรมทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้กรมเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกรม
                     (3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้กรมแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ หรือขอให้เพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ให้สมบูรณ์ขึ้นได้
                     (4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้กรมลบข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
                     (5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้กรมจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
                     (6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองด้วยเหตุบางประการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
                     (7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้ตามที่กฎหมายกำหนด

            2.7.3 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนของกรมหรือที่กรมแต่งตั้งให้เป็นผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อยื่นคำร้องขอให้ดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2.6.3 ทั้งนี้ จะจัดให้มีการบันทึกการใช้สิทธิ คำคัดค้านหรือการดำเนินการใดๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นหลักฐานด้วย

            2.7.4 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายและแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (www.mdes.go.th) และเอกสารแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (https://www.law.chula.ac.th/wp-content/uploads/ 2020/12/TDPG3.0-C5-20201224.pdf)

            2.7.5 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิข้างต้นได้ โดยกรมจะพิจารณาคำร้องขอและแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่กรมได้รับคำร้องขอดังกล่าว ทั้งนี้ การเก็บค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารที่เพิ่มขึ้นให้เป็นไปตามระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2565

      2.8 ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งมีหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

              2.8.1 กรมจะกำหนดให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการของกรม รวมทั้งบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

              2.8.2 ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นบุคคลภายนอก กรมจะจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกรมกับผู้ประมวลผลข้อมูล เพื่อกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กรมกำหนดด้วย โดยกรมจะจัดให้มีการควบคุมและตรวจสอบการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

         กรมป่าไม้
กุมภาพันธ์ 2566

เอกสารเพิ่มเติม

Skip to content