13 มีนาคม 2568 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กรุงเทพฯ
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมกับ นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ขับเคลื่อนโครงการ BAAC Carbon Credit ป่าชุมชน และป่าเสื่อมโทรม ระหว่าง กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงการคลัง โดยมีนายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายณรงค์ ขันติวิริยะกุล รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมลงนามเป็นพยาน มีนายเสกสรร กวยะปาณิก ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าชุมชน นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือดังกล่าว
สำหรับความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการ BAAC Carbon Credit ป่าชุมชน และป่าเสื่อมโทรม ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแนวทางความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้ กับ ธ.ก.ส. ในการบำรุงรักษาและอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ป่าชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยป่าชุมชน ซึ่งเป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ป่าที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในท้องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ รวมถึงยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามมาตรฐานของประเทศไทยหรือสากล พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี โดยกรมป่าไม้ จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ให้มีการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ป่า ภายใต้ความดูแลรับผิดชอบของกรมป่าไม้ สนับสนุนความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการคัดเลือกพันธุ์ไม้ การปลูก การดูแล บำรุงรักษา ติดตาม และประเมินผลให้ดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาและให้การสนับสนุนตามความเหมาะสม ส่วน ธ.ก.ส. จะเป็นผู้ดำเนินการปลูก บำรุงรักษา ตามแนวทางและวิธีการฟื้นฟูตามหลักวิชาการป่าไม้ โดยการมีส่วนร่วมของกรมป่าไม้และชุมชน รวมทั้งการวิจัยเพื่อติดตามและประเมินผลของโครงการ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการติดตามการเจริญเติมโตของป่า ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน
โดยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า รู้สึกมีความยินดีที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะเป็นความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของประเทศแล้ว โครงการดังกล่าวยังช่วยส่งเสริมให้ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ป่าได้มีรายได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งกรมป่าไม้พร้อมจะให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เพื่อให้โครงการดังกล่าวบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าวไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การร่วมมือดังกล่าวถือเป็นโอกาสอันดีที่ ธ.ก.ส. ร่วมกับกรมป่าไม้ ส่งเสริมความร่วมมือในการปลูกป่าและฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่จังหวัดน่าน ในพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ รวมถึงช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) รวมถึงเป็นโครงการนำร่องที่จะขยายความร่วมมือไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
