20 ธันวาคม 2567 ณ ห้องประชุม 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้
นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม 13 นิคม 14 ป่า และป่าแม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมี รศ. ดร.นันทนานันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายศักดา มณีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ผู้แทนเครือข่าย 13 นิคม 14 ป่า เข้าร่วมประชุมหารือ
ทั้งนี้ นิคมสหกรณ์การเช่าที่ดิน 13 นิคม 14 ป่า จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2513 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2517 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ให้มีสิทธิอยู่อาศัยทำกินได้ตลอดไป แต่ไม่ให้เอกสารสิทธิในที่ดิน เพื่อมิให้ตกไปเป็นของนายทุน ซึ่งสมาชิก 13 นิคม 14 ป่า และป่าแม่ริมมีความประสงค์จะได้เอกสารสิทธิเพื่อไปดำเนินการต่างๆ ตามความประสงค์ได้อย่างคล่องตัว แต่การมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินจะทำให้มีโอกาสที่จะโอนกรรมสิทธิ์ไปเป็นของผู้อื่นที่มิใช่เกษตรกรได้ กรมป่าไม้และกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้หารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยจะดำเนินการตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล เป็นการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐแบบแปลงรวม เพื่อมิให้เกิดปัญหาดังกล่าวข้างต้นโดยที่ประชุมมีผลสรุปร่วมกัน ดังนี้
1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันชี้แจงแนวทางการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ในพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า เพื่อช่วยเหลือสมาชิกนิคมสหกรณ์ให้อยู่อาศัยทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน สามารถเข้าถึงโครงการต่างๆ ของรัฐบาลได้
2 หากดำเนินการ คทช. กลุ่มเครือข่ายฯ กลัวจะเสียสิทธิ์ตาม พรบ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ 2511 หากเป็นไปได้ขอให้ดำเนินการควบคู่กันไปด้วย
3 เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกลุ่มเครือข่ายฯ ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยจะนำผลการประชุมวันนี้ไปหารือในการประชุมที่ สคทช. จะจัดขึ้นต่อไป
