กรมป่าไม้ ประชุมผู้บริหารเร่งดำเนินงานตามภารกิจมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุม 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้

นายนิกร ศิรโรจนานนท์ อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกรมป่าไม้ ครั้งที่ 9/2568 โดยมี นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา นายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ ดร.พงศ์พยัคฆ์ ศรียา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยผู้บริหารทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และประชุมผ่านระบบ Video Conference โดยประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบและเร่งดำเนินการในโครงการต่าง ๆ ตามนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ให้เห็นผลภายใต้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี การบริหารจัดการไม้ของกลาง รวมถึงของกลางต่าง ๆ ในคดี ให้หน่วยป้องกันฯ ทำการตรวจสอบและจัดทำบัญชีให้ถูกต้อง กรณีหากมีการส่งมอบไม้ของกลางให้แก่ อ.อ.ป. หรือการขายทอดตลาด เพื่อลดภาระการจัดเก็บหรือดูแลรักษา นอกจากนี้ อาจมีการทบทวนบทบาท อำนาจ หน้าที่ ของกรมป่าไม้ใหม่ ให้สอดคล้องกับรูปแบบการบริหารประเทศในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ประธานยังได้มอบหมายงานสำนักต่าง ๆ เร่งการดำเนินการ ดังนี้

1. สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า แม้ภารกิจด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่าจะได้ถ่ายโอนไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้ว แต่กรมป่าไม้ยังมีภารกิจในการสนับสนุนป้องกันและควบคุมไฟป่าอยู่ รวมถึงยังต้องมีการอบรมเพิ่มความรู้ การทบทวนการใช้อุปกรณ์และการดำเนินการควบคุมไฟป่าให้แก่ทั้งเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายป้องกันไฟป่าอยู่ ขอให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

2. สำนักจัดการที่ดินป่าไม้ โดยให้ดำเนินการตามนโยบาย คทช. ในกลุ่มที่ 2 ให้รวดเร็ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ดำเนินการเอง รวมถึงขอให้จัดทำฐานข้อมูลด้านที่ดินป่าไม้ภายใต้ Data Center ให้ถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดของกรมป่าไม้สามารถนำข้อมูลมาใช้ประกอบในการดำเนินงานได้

3. กองการอนุญาต ขอให้เร่งดำเนินการอนุญาตต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พิจารณาตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อให้หน่วยงานที่ยื่นขออนุญาตเข้าดำเนินการตามคำขออนุญาตให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวมต่อไป

4. สำนักส่งเสริมการปลูกป่า ขอให้ตรวจสอบข้อมูลการดำเนินการปลูกป่าในแปลงต่าง ๆ รวมถึงขอบเขตแปลงให้ถูกต้อง กรณีที่มีหน่วยงานต่าง ๆ ขอเข้าร่วมโครงการปลูกป่า CSR เพื่อขอรับ Carbon Credit ขอให้ดำเนินการโดยเร่งด่วนและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้อง

5. สำนักจัดการป่าชุมชน เนื่องจากมีพื้นที่ป่าชุมชนกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ มากกว่า 1 หมื่นป่าทั่วประเทศ และบางแห่งมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ขอให้มีการพัฒนาร่วมกับคณะกรรมการป่าชุมชนเพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน รวมถึงเพิ่มแรงจูงใจให้ชุมชนอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าในรูปแบบป่าชุมชนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพิจารณานำป่าชุมชนที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการ T-VER กับกรมป่าไม้

6. สำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ เนื่องจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของทุกพระองค์ ในส่วนของกรมป่าไม้ขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขอให้รวบรวมข้อมูล ผลการดำเนินงาน และประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ และผลสำเร็จด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ รวมถึงการดำเนินงานในพื้นที่โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่สอด จ.ตาก ให้ดำเนินการต่าง ๆ ให้ถูกต้อง

7. สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ เนื่องจากเป็นสำนักที่เป็นฐานข้อมูลในด้านต่าง ๆของกรมป่าไม้ ที่จะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้แก่ภาคประชาชนและภาคเอกชน รวมถึงเป็นฐานข้อมูลให้หน่วยงานภายในกรมป่าไม้ นำไปขยายผลการดำเนินงาน การพัฒนางานของแต่ละสำนัก จึงขอให้จัดทำข้อมูลงานวิจัยต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ให้พร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของกรมป่าไม้

8. สำนักจัดการป่านันทนาการ ปัจจุบันมีป่านันทนาการที่ประกาศจัดตั้งไปแล้วกว่า 30 แห่ง และบางแห่งมีศักยภาพที่จะจัดเก็บรายได้เข้าสู่กรมป่าไม้ จึงขอให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทุกสำนักเร่งสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีศักยภาพ มีความสวยงาม มีความพร้อมที่จะประกาศจัดตั้งเป็นป่านันทนาการได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการบริหารจัดการพื้นที่ป่าแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาพื้นที่ป่า และยังช่วยป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าได้อีกทางหนึ่งด้วย

9. สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ เนื่องจากในปัจจุบันมีการขยายเส้นทางคมนาคมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจถูกใช้เป็นเส้นทางในการกระทำผิดด้านป่าไม้ การขนย้ายไม้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จึงขอให้ไปศึกษาพิจารณาจัดตั้งด่านป่าไม้ตามเส้นทางต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ขอให้พิจารณากฎระเบียบต่าง ๆ ในการส่งเสริมการปลูกป่า การขยายตลาดรับซื้อ โดยร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถส่งสินค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนหรือเกษตรกรเข้ามามีอาชีพปลูกป่า ลดการใช้ไม้จากป่า อีกทั้งยังช่วยสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานและแผนการจัดงานของสำนักต่าง ๆ ที่จะดำเนินงานดังนี้

1. สำนักแผนงานและสารสนเทศ รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570

2. สำนักจัดการป่าชุมชน แจ้งกำหนดจัดพิธีมอบรางวัลโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2568 ผลการดำเนินการจัดตั้งป่าชุมชน และการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าชุมชน

3. สำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ รายงานการเตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ณ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ตาก ระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2568

Leave a Comment

Skip to content