วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ ต.ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
นายสุชาติ ชมกลิ่น กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน ทำให้พื้นที่เผาไหม้ในพื้นที่ป่าในฤดูฝุ่นปี 2568 ลดลงจากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหายังคงมีความท้าทายเนื่องจากต้องดูแลพื้นที่ป่ากว่า 120 ล้านไร่ ขณะที่จำนวนเจ้าหน้าที่ยังไม่เพียงพอ จึงยังพบการลักลอบเผาป่ารวมถึงไฟที่ลามเข้าในพื้นที่ป่าจากพื้นที่รอบนอกเป็นประจำทุกปี
จากนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น War Room ที่สามารถบูรณาการข้อมูลและสั่งการได้แบบ Real Time รวมถึงระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่ทันสมัย เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกันนี้ ได้เป็นสักขีพยานการมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าแก่เจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า รมว.ทส. ได้มอบโอวาทและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ตรวจเยี่ยมกำลังพล ชมนิทรรศการ และฐานการสาธิตการฝึกของชุดดับไฟ
นายนิกร ศิรโรจนานนท์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ประจำปี 2569 และเปิดศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ ณ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง รนม./รมว.ทส.) เป็นประธาน มี ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหาร ทส. ผู้บริหารส่วนราชการในสังกัด ทส. ผู้บริหารส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม พร้อมรับมอบนโยบาย 10 มาตรการเข้มรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ปี 2569 เพื่อแสดงความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยตั้งเป้าลดพื้นที่เผาไหม้ในพื้นที่ป่าในฤดูฝุ่นปี 2568
