วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้คณะบุคคลเข้าพบเพื่อแสดงพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคประชาชน เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนเข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยมีนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. นายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายวีรพงศ์ วิรบุตร์ ผู้บริหารบริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมด้วยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมเข้าพบ ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้ประสานความร่วมมือกับกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมส่งเสริมการเกษตร ผลักดันความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตามนโยบายการมีส่วนร่วมและภาครัฐระบบเปิด เพื่อยกระดับการจัดการมลพิษทางอากาศของประเทศให้เกิดเป็นรูปธรรม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการควบคุมมลพิษจากยานพาหนะ ลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม การจัดการเชื้อเพลิงในป่า ควบคุมมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส” เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นระบบร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ผลักดันแนวคิด “ระบบนิเวศภาครัฐแบบเปิดและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย (Open Government and Meaningful Participation Ecosystem)” และขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และภาคประชาสังคม ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนความร่วมมือในครั้งนี้ โดยมีการทดลองใช้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี ลำปาง และเชียงใหม่ ซึ่งสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและขยายผลในวงกว้างได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความยินดีกับการจับคู่ความร่วมมือ (Matching) ระหว่างภาคเอกชนและองค์การท้องถิ่นผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ตลอดจนโครงการ CSR ของภาคเอกชนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานในพื้นที่เป้าหมาย เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่เกษตรกรรม ครอบคลุมมากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง และขับเคลื่อนประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับรัฐบาลในการสนับสนุนพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
