14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.30 น. ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัดนายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมประชุมคณะทำงานที่ปรึกษาด้านการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (CEO One Map) โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน มีคณะทำงานจากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานที่ปรึกษาฯ และความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ ซึ่งมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 กลุ่ม ๆ ละ 11 จังหวัด โดยกลุ่มที่ 1-4 คณะรัฐมนตรีกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน กลุ่มที่ 5 แจ้งเวียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับรองผลการดำเนินการและเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป กลุ่มที่ 6-7 อยู่ในระหว่างดำเนินการปรับปรุงพร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ ให้ทันกรอบเวลาตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยให้หน่วยงานที่มีที่ดินของรัฐ 9 หน่วยงาน ลดขั้นตอนการปรับปรุงแผนที่ท้ายกฎหมายแต่ละฉบับให้สามารถดำเนินการได้ไม่เกิน 300 วัน ให้คณะทำงานประสาน ติดตาม ขับเคลื่อน และบริหารจัดการ เร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่เห็นควรให้หน่วยงานเร่งรัดดำเนินการ ดังนี้
1. การเร่งรัดการดำเนินงาน (One Map) กลุ่มที่ 6 และ 7 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา กรณีพบปัญหาและอุปสรรคให้รายงาน (CEO One Map) ทราบ สำหรับกลุ่มที่ 5 ซึ่ง คทช. ให้ความเห็นชอบผลการดำเนินการแล้ว ขอให้แต่ละหน่วยงานเร่งรับรองผลการดำเนินงาน ภายใน 15 วัน เพื่อ สคทช. จะได้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป
2. การเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายตามผลการดำเนินการ (One Map) ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว กลุ่มที่ 1-4 ให้แต่ละหน่วยงาน ลดขั้นตอนการปรับปรุงแผนที่ท้ายกฎหมายแต่ละฉบับให้สามารถดำเนินการได้ไม่เกิน 300 วัน โดยส่งให้ฝ่ายเลขานุการฯ ภายใน 30 วัน เพื่อเสนอ (CEO One Map)ทราบด้วย
3. การประชาสัมพันธ์ และการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (One Map) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการชี้แจงสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ชัดเจน และทั่วถึงแก่สาธารณชน ถึงเหตุผล ความจำเป็น และประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวผ่านทุกช่องทาง
4. แนวทางการจัดทำแผนที่แนบท้ายกฎหมายในรูปแบบดิจิทัล ให้ สคทช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาแนวทางการจัดทำแผนที่แนบท้ายรูปแบบดิจิทัล โดยให้มีผลทางกฎหมายตามที่ สคทช. เสนอ
5. การขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ให้กรมแผนที่ทหารนำเรื่องเสนอสำนักงบประมาณ และคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
6. แนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องบูรณาการแก้ไขปัญหา ตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ยุติโดยเร็ว โดยดำเนินการแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยาให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ส.ป.ก. หารือแนวทางร่วมกับ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมธนารักษ์ เพื่อเร่งรัดดำเนินการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมทั้งเร่งรัดการสำรวจตรวจสอบการแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน และรายงานให้ สคทช. ทราบด้วย
