นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หารือแนวทางปรับปรุงแนวเขตที่ดิน พื้นที่ ป่าไม้ อุทยานฯ เร่งจัดทำ One Map พื้นที่จังหวัดกลุ่มที่ 2

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมหารือกับ พันตำรวจโทวันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map)พร้อมคณะ ณ ห้องประชุม ชั้น 17 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมี นายจงคล้าย วรพงศธรรองปลัดกระทรวงฯ พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของกรมป่าไม้มีนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เข้าร่วม

สำหรับการประชุมหารือครั้งนี้ เพื่อร่วมกันพิจารณาประเด็นการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ภายใต้การกำกับของกระทรวงฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเจตนารมณ์ในการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐหนึ่งหน่วยงานดูแลรับผิดชอบที่ดินของรัฐหนึ่งแห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการที่ดินที่ทับซ้อนกัน อันจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและเอกภาพในการบริหารจัดการที่ดินรัฐและต่อประชาชน เพื่อที่คณะทำงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ จะได้นำไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกลไกของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ รวมทั้งใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ปกท.ทส. เน้นย้ำว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยินดีให้ความร่วมมือและเร่งรัดดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะเร่งดำเนินการปรับปรุงแนวเขตพื้นที่ที่ดินรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลที่ทับซ้อนกันในพื้นที่จังหวัดกลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตราด นครนายก นครสวรรค์ระยอง ลพบุรี สระบุรี และศรีสะเกษ ให้แล้วเสร็จ ก่อนนำเข้าคณะอนุกรรมการฯ One Map ที่มี พลเอก ชัยชาญช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 นี้ ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการให้แนวเขตที่ดินของหน่วยงานรัฐมีความถูกต้อง ตรงตามกฎหมาย ตามสภาพข้อเท็จจริงและหลักวิชาการ มีแผนที่กลางมาตราส่วนเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินลดปัญหาความซ้ำซ้อน ลดความเหลื่อมล้ำ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน

Leave a Comment

Skip to content