“พลเมืองดีร้องเรียนมายังชุดพยัคฆ์ไพร พบการบุกรุกพื้นที่ป่าในอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เคยมีการดำเนินคดีแล้วเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบขยายพื้นที่เพิ่มอีก 28 ไร่ มีการทำไม้อีกกระจายพื้นที่ ขยายผลเกี่ยวข้องผู้มีอิทธิพลภาคใต้”เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) โดยฐานปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ภาคใต้ นำกำลังร่วมกับ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สฎ.6 (ครองท่าไม้แดง) ฝ่ายปกครองอำเภอวิภาวดี และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกันเข้าดำเนินการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ป่าบ้านบางไต หมู่ 16 ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากมีผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนาม ร้องเรียนมายังหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ว่ามีผู้มีอิทธิพลได้เข้ามาครอบครองพื้นที่ป่า แผ้วถางป่า และมีการตัดโค่นไม้ขนาดเล็กและขนาดใหญ่เป็นบริเวณกว้าง จากการตรวจสอบ พบร่องรอยการแผ้วถางป่าโดยใช้ขวานและเลื่อยโซ่ยนต์โค่นไม้กระจายอยู่หลายจุดในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจวัดพิกัดตำแหน่งแปลงที่ดิน พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร พื้นที่ป่าเตรียมการ 92 และพื้นที่บางส่วนได้มีการตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 เนื้อที่ 12 ไร่เศษ โดยมีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติม เนื้อที่ 28 ไร่เศษ รวมพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมด 40 ไร่เศษ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไม้ท่อน 43 ท่อน ปริมาตร 51.84 ลูกบาศก์เมตร จากการขยายผลเชิงลึกสืบทราบว่า ผู้ที่เข้ามาบุกรุกแผ้วถาง ยึดถือครอบครองมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองทางภาคใต้รายหนึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดและนำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิภาวดี เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีกฎหมายต่อไป
