ผนึกกำลัง ศปป.4 กอ.รมน. เข้าขยายผลโรงงานแปรรูป


“รองอธิบดีกรมป่าไม้ นำทีมพยัคฆ์ไพร ผนึกกำลัง ศปป.4 กอ.รมน. เข้าขยายผลโรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่งในอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนข้อมูลเชิงลึก ติดตามกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ตะเคียนชันตาแมว 15 ต้น ในพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 จังหวัดนราธิวาส ดังที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ จนพบข้อมูลว่า มีนายหน้าค้าไม้ในพื้นที่ ได้ขนย้ายไม้เข้ามาในโรงเลื่อย และได้ทำการแปรรูปไปแล้วส่วนหนึ่ง” นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยพันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4กอ.รมน.) นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้พระนครศรีอยุธยา บูรณาการร่วมกับตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าขยายผลตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเชิงลึก จากกรณีมีกลุ่มขบวนการเข้าไปลักลอบตัดไม้ตะเคียนชันตาแมว 15 ต้น ในพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ดังที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ จนพบข้อมูลว่า มีนายหน้าค้าไม้ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้ขนย้ายไม้ตะเคียนเข้ามาแปรรูปในโรงเลื่อย และได้ทำการแปรรูปไปแล้วส่วนหนึ่ง และที่เหลือเป็นไม้ท่อนอีกจำนวนมาก

ซึ่งโรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้มีใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยเครื่องจักรจากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบไม้ท่อนหลายประเภท มีทั้งไม้ตะเคียน ไม้กันเกรา ไม้สัก ไม้ยางนา และพบไม้แปรรูปอีกจำนวนมาก จึงขอตรวจสอบเอกสารการได้มาของไม้ โดยเฉพาะไม้ตะเคียนที่ขนย้ายมาจากจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตัวแทนโรงเลื่อยแจ้งว่า ไม้ดังกล่าวเป็นไม้ที่มีผู้ว่าจ้างให้ทางโรงเลื่อยแปรรูป และได้นำเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ปรากฏว่า มีไม้ตะเคียนท่อนขนาดใหญ่จำนวน 3 ท่อน ความโต 325 เซนติเมตร ปริมาตร 11.30 ลูกบาศก์เมตร อายุกว่า 100 ปีอ้างว่าอยู่ในที่ดิน สปก. และได้รับเมื่อปี 2548 ซึ่งกฎหมายตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ที่ดิน สปก.สามารถตัดได้เฉพาะไม้ที่ปลูกขึ้นเองเท่านั้น นอกจากนี้พบไม้กันเกราแปรรูป 482 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 6.7 ลูกบาศก์เมตร เอกสารที่นำมาแสดงพบข้อพิรุธหลายจุด โดยเฉพาะจำนวนไม้ที่ระบุในเอกสารมีน้อยกว่าความเป็นจริงมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึด พร้อมจัดทำบันทึก รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไปสำหรับไม้กันเกราท่อน และตะเคียนขนาดใหญ่ที่ถูกแปรรูปแล้ว เจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หากพบว่าเอกสารที่นำมาแสดงไม่ถูกต้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันยังตรวจพบว่า โรงเลื่อยดังกล่าวจัดทำเอกสารไม่ชัดเจน และพยายามกล่าวอ้างว่าไม้ท่อนขนาดใหญ่ที่ตรวจพบเป็นของบุคคลอื่นที่มาว่าจ้างให้แปรรูป โดยไม่จัดทำเอกสารประกอบการได้มาของไม้ให้ถูกต้องซึ่งเป็นข้อพิรุธ และเจ้าหน้าที่จะร่วมกันขยายผลต่อไปยังท้องที่จังหวัดนราธิวาส

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *