“กรมป่าไม้นำหมายศาลจังหวัดยโสธร ขยายผลตรวจค้นลานไม้แห่งหนึ่ง ในอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร หลังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ลำเลียงไม้พะยูง ไม้ประดู่จำนวนมากเข้าพื้นที่เป้าหมาย เตรียมแปรรูปส่งออกนอกประเทศ”
ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่เน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่า และขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ กลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพล เครือข่าย กลุ่มขบวนการ รวมถึงตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุนในการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ ตลอดจนกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมป่าไม้ นายนิกร ศิรโรจนานนท์ และนายโกสิทธิ์ นิลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้สั่งการให้ส่วนปฏิบัติการพิเศษ และหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ขยายผลเชิงลึกเอาผิดกลุ่มขบวนการค้าไม้ข้ามชาติทั้งขบวนการ หลังพบเบาะแสกลุ่มขบวนการค้าไม้ชาวจีน ร่วมมือกับนายหน้าชาวลาว เข้าไปตัดไม้พะยูงในพื้นที่ป่าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลำเลียงขนย้ายไม้เข้ามาพักในพื้นที่แห่งหนึ่งพื้นที่จังหวัดยโสธร
ปฏิบัติการครั้งนี้นำโดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ และหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้ยโสธร ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ยโสธร เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยส.3 (โคกนาโก) และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำหมายศาลจังหวัดยโสธร เข้าตรวจค้นภายในพิกัดเป้าหมายที่ใช้ชื่อว่าลานรับซื้อมันสำปะหลัง ท้องที่ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร หลังได้รับข้อมูลจากพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่ากลุ่มขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ทั้งทุนจีน ทุนลาว และทุนไทย ขนไม้พะยูง และไม้ประดู่มาพักไว้ในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อรอทำการแปรรูป และส่งออกนอกประเทศ
จากการตรวจสอบพบกองไม้หลายชนิด ทั้งไม้แปรรูปและไม้ท่อน เศษไม้ปลายไม้ และขี้เลื่อยกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ แต่ไม่พบอุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรรูปไม้ โดยพบเป้าหมายเป็นไม้พะยูงแปรรูป 38 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ไม้พะยูงท่อนอีก 187 ท่อน ไม้ประดู่แปรรูป 145 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ไม้ประดู่ท่อนอีก 64 ท่อน จากการสอบถามชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นผู้ครอบครองสถานที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุญาตเพื่อประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้ ระบุว่าไม้ทั้งหมดตัดมาจากที่ดินกรรมสิทธิ์ในพื้นที่อำนาจเจริญ มหาสารคาม อุดรธานี นครพนม กาฬสินธุ์ ยโสธร และในพื้นที่ปราจีนบุรี พร้อมได้มอบเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งจะได้ขยายผลตรวจสอบแหล่งที่มาของไม้ว่ามีความสอดคล้องกับเอกสารที่นำมาแสดงหรือไม่ เบื้องต้นได้นำบันทึกการตรวจสอบไปลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรป่าติ้ว
จากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามขบวนการค้าไม้ข้ามชาติกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ และข้อมูลที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี พบว่ากลุ่มขบวนการนี้มีชาวจีนเป็นหัวหน้าทีม โดยเข้ามาอยู่ในประเทศไทย และได้ข้ามแดนเข้าลาวหลายครั้ง นอกจากนี้ยังร่วมมือกับนายหน้าชาวลาว ลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่ป่า โดยเฉพาะไม้พะยูง และไม้ประดู่ หลังจากแปรรูปแล้วจะลักลอบนำข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศลาว ก่อนที่จะขนส่งไปยังประเทศจีน ขณะเดียวกันยังพบข้อมูลว่าขบวนการนี้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งในพื้นที่ศรีสะเกษ
เจ้าหน้าที่จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน ที่มีอาชีพรับซื้อไม้-ขายไม้ หรือประกอบกิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไม้ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ขอให้ท่านดำเนินการขออนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายของไม้ที่ครอบครอง สำหรับแสดงให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้อง มิฉะนั้นหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
