” 5 ผู้ต้องหาคดีตัดไม้ประดู่ที่เทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ร้องเรียนสภาทนายความเพื่อขอความเป็นธรรม


” 5 ผู้ต้องหาคดีตัดไม้ประดู่ที่เทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ร้องเรียนสภาทนายความเพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ประดู่ขนาดใหญ่เมื่อ 21 มกราคม ที่ ผ่านมา ยืนยันได้รับว่าจ้างเข้ามาตัดไม้ฟืนในที่ดินกรรมสิทธิเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ล่าสุดตำรวจ สภ.เทพสถิตออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หากไม่มาตามนัดเตรียมออกหมายจับต่อไป”นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เทพสถิตย์ เก็บข้อมูลและตรวจสอบเพิ่มเติมบริเวณบ้านไร่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิอีกครั้ง หลังจากได้ร่วมกับฝ่ายปกครองตรวจยึดจับกุมไว้ขบวนการลักลอบตัดไม้ประดู่ขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา และสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการ 7 คน และบางส่วนได้หลบหนีการจับกุม หนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจป่าทางภาคเหนือผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 5 ราย ได้ร้องผ่านทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ เพื่อร้องขอให้สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรม โดยอ้างว่าทั้ง 5 คน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำไม้ประดู่ขนาดใหญ่ เป็นเพียงผู้ที่รับจ้างเข้ามาทำไม้ฟืนซึ่งเป็นไม้สัก และไม้มะค่า ที่ปลูกขึ้นเท่านั้น

จากการสอบถามทั้ง 5 รายให้ข้อมูลว่า ในจำนวนทั้ง 5 คนที่ถูกจับกุมเป็นคนในหมู่บ้าน แบ่งเป็นทีมรับจ้างทำไม้ฟืน 3 คน ซึ่งถูกว่าจ้างให้มาตัดฟันไม้ฟืนที่ปลูกขึ้น มีไม้สัก และไม้มะค่า และได้ดำเนินการตัดฟันมาแล้ว 4 วัน ก่อนจะถูกจับกุม โดยยังไม่ได้มีการขนไม้ฟืนดังกล่าวออกจากพื้นที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ส่วนผู้ถูกจับกุมอีก 2 ราย เป็นผู้ที่นายนิยม รักเสนาะ ว่าจ้างให้มาขับรถไถชักลากไม้ และบรรทุกไม้ออกจากพื้นที่ โดยได้รับแจ้งจากนายนิยมว่า เป็นไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเข้ามารับจ้าง และยังไม่ได้มีการบรรทุกไม้ออกจากพื้นที่เกิดเหตุแต่อย่างใด เนื่องจากรอการสั่งการจากผู้ว่าจ้างจนมาถูกจับกุมเสียก่อน ขณะเดียวกันได้แจ้งว่า กลุ่มที่เข้ามาตัดไม้ประดู่ขนาดใหญ่ไม่ใช่ทีมของตน และไม่ได้รู้จักกันมาก่อน เป็นบุคคลภายนอก ประมาณ 5-6 คน ที่นำทีมโดยนายนิยม รักเสนาะ เข้ามาทำไม้ประดู่ และได้หลบหนีไปขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ได้ชี้แจงข้อสงสัย กรณีการจับจุมในครั้งนี้ เนื่องจากในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจยึดจับกุมเป็นเหตุเฉพาะหน้า มีกลุ่มบุคคลและไม้กองอยู่จำนวนมาก โดยอำนาจหน้าที่ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ สำหรับพยานหลักฐานที่ผู้ถูกจับกุมทั้ง 5 ราย ได้ชี้แจงกล่าวอ้างนั้น ก็ขอให้นำเข้าสู่การพิจารณาของผู้ที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป และขอให้ทุกฝ่าย ควรศึกษาทำความเข้าใจกฎหมายให้ดี เนื่องจากมีการปรับปรุงแก้ไขใหม่ เพื่อมิให้มีการกระทำผิดซ้ำอีก รวมทั้งได้ฝากให้ทางฝ่ายท้องถิ่น ร่วมกับหน่วยงานป่าไม้ในพื้นที่ ได้ร่วมกันชี้แจงแนะนำทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไปในส่วนของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเทพสถิตย์ ได้ออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาตามนัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โทษถึงขั้นไล่ออก

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *