“ชุดพยัคฆ์ไพร ร่วม ศปป.4 กอ.รมน. ประสานฝ่ายปกครองขยายผลขบวนการทำไม้ประดู่ข้ามชาติ เข้าตรวจสอบ 2 พื้นที่เป้าหมายในอำเภอเทพสถิต ชัยภูมิ และอำเภอวิเชียรบุรี เพชรบูรณ์ ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องยังไม่ปรากฎตัว ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งเร่งประสานให้ออกหมายจับทันที”
https://www.forest.go.th/protect/wp-content/uploads/sites/94/2021/01/142312918_1141888629564233_1287976396092273352_o.jpg https://www.forest.go.th/protect/wp-content/uploads/sites/94/2021/01/142130186_1141888706230892_2900406469342439036_o.jpg https://www.forest.go.th/protect/wp-content/uploads/sites/94/2021/01/141536437_1141888736230889_4595493030367282940_o.jpg
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ,หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปป.4.กอ.รมน. นายสราวุธ อุเทนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) นายมนตรี มะลิทอง ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและควบคุมไฟป่า และชุดปฏิบัติการของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา)ลงพื้นที่ขยายผล 2 จุดเป้าหมายในพื้นที่อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ และอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหาตัวนายทุนรายใหญ่ และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งเอกสารแจ้งให้ ส.ท.นิยม รักเสนาะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจป่า (พร) สังกัดศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ ซึ่งมาควบคุมการทำไม้ครั้งนี้ด้วยตนเอง มาพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 25 มกราคม 2564 เวลา 11.00 น. แต่เมื่อถึงเวลานัด ส.ท.นิยม รักเสนาะ กลับไม่ยอมเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ จึงได้จัดทำบันทึกเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มให้พนักงานสอบสวนทราบ ดำเนินการออกหมายจับต่อไป
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ขยายผล โดยจุดแรกเข้าขยายผลตรวจสอบในพื้นที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิตย์ จังหวัดชัยภูมิ โดยได้ประสานการปฏิบัติกับ นายสิทธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอเทพสถิตย์ร่วมขยายผลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นจุดที่มีการทำไม้ที่เป็นแปลง สปก.4-01 ที่มีการอ้างว่ามีการขึ้นทะเบียนสวนป่า เพื่อหารหลักฐานเพิ่มเติม โดยผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบพิสูจน์ตอไม้ และอ่านแปลภาพพบว่า ตำแหน่งตอเป็นไม้ประดู่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่สามารถนำไปขึ้นทะเบียนสวนป่าได้ตามระเบียบกฎหมาย และตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบทำไม้จากนอกแปลงมาสวมอีกจำนวนมาก ซึ่งตอไม้ในพื้นทีถูกตัดไม่ต่ำกว่า 60 ต้น ซึ่งน่าจะมีการลักลอบขนย้ายไม้ออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง และร่องรอยการใช้สี สเปรย์ฉีดหมายที่จะทำไม้ออกอีกหลายต้น ทั้งที่พื้นที่แปลงดังกล่าวยังมีความเป็น ป่าธรรมชาติ มีต้นไม้ป่าขึ้นเต็มพื้นที่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าขยายผลในโรงงานแปรรูปไม้ในพื้นที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยประสานการปฏิบัติร่วมกับนายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอวิเชียรบุรี เพื่อขยายผลเข้าเข้าตรวจสอบโรงเลื่อยท้องที่ ตำบลท่าโรง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามที่สายข่าวรายงานว่ามีไม้ท่อนน่าสงสัยที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับไม้ที่ชัยภูมิ จากการตรวจสอบพบไม้ประดู่ท่อนและแปรรูปจำนวนมาก เตรียมบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ของกลุ่มนายทุนชาวจีน และตรวจสอบใบอนุญาตโรงงานหมดอายุ โดยภายในพบมีการตั้งแท่นเลื่อยแบบผิดกฎหมายจำนวนมาก และเครื่องเลื่อยยนตร์อีก1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเครื่องจักร เครื่องเลื่อยยนต์ พร้อมดำเนินคดีฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และอายัดไม้อีกจำนวนมากเพื่อขยายผลต่อไป ในส่วนของ ส.ท.นิยม รักเสนาะ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องชัดเจน ล่าสุดอธิบดีกรมป่าไม้ นายอดิศร นุชดำรงค์ สั่งการให้ดำเนินการย้ายออกนอกพื้นที่ และให้ตั้งกรรมการสอบสวน พร้อมลงโทษทางวินัยร้ายแรงไล่ออก และให้ประสานเร่งออกหมายจับมาดำเนินคดีเร็วที่สุด
https://www.forest.go.th/protect/wp-content/uploads/sites/94/2021/01/140758609_1141888866230876_8136932154510727213_o.jpg https://www.forest.go.th/protect/wp-content/uploads/sites/94/2021/01/140758609_1141888866230876_8136932154510727213_o.jpg https://www.forest.go.th/protect/wp-content/uploads/sites/94/2021/01/140290921_1141888909564205_5332271509148289344_o.jpg