ป่าเขากระชาย พื้นที่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี คือเป้าหมายที่พลเมืองดีร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆให้เข้าตรวจสอบ หลังจากเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบกลุ่มบุคคลนำเครื่องจักรหนักเข้ามาขุดดินบริเวณชายป่า โดยครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียน พบการบุกรุกพื้นที่ป่าประมาณ 1 งาน 45 ตารางวา จึงได้จัดทำบันทึกการตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูล และขยายผลตรวจสอบพื้นที่โดยรอบป่าเขากระชายทั้งหมด ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งพบข้อมูลว่า มีพื้นที่อีกหลายจุดที่เข้าข่ายบุกรุกป่า จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ประสานบูรณาการร่วมกับพันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชลบุรี ตำรวจกองกำกับการ 2 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ กลับเข้าพื้นที่อีกครั้ง จากการนำอากาศยานขึ้นบินสำรวจ พบว่ามีการบุกรุกแผ่วถางป่าเพิ่มอีกหลายจุดในพื้นที่ข้างเคียง โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่พบมีการใช้เครื่องจักรหนักแผ่วถางทำเป็นทางขึ้นไปบนเนินเขา ซึ่งบริเวณนี้สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน จากการตรวจสอบจากภาพถ่ายดาวเทียมพบว่า พื้นที่ถูกบุกรุกในช่วงปี 2561 และเมื่อตรวจสอบจากสารบบแปลงที่ดินของกรมพัฒนาที่ดิน ไม่ปรากฏแปลงโฉนดที่ดินแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึด พร้อมบันทึกเรื่องราวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจพลูตาหลวง สืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกจุดใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่พบการบุกรุกแผ่วถางป่า และมีการปรับพื้นที่ คาดว่าเตรียมก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้สามารถมองเห็นวิวทะเล และมีลมพัดผ่าน จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศพบว่าเป็นการบุกรุกใหม่เมื่อช่วงต้นปี 2562 และยังไม่มีการออกโฉนด เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกเรื่องราวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจพลูตาหลวง เพื่อสืบสวนผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บางส่วนใกล้เคียงกันที่ข้อมูลยังไม่แน่ชัด เพื่อความถูกต้องและความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงได้มอบหมายให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 ชลบุรี ทำหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ เพื่อลงพิกัดในระวางแผนที่ ตรวจสอบว่าอยู่นอกแปลงระวางหรือไม่ และทำหนังสือไปที่กรมพัฒนาที่ดิน ขอให้ตรวจสอบว่ามีการชี้ระวางแนวพื้นที่เขาหรือไม่ และให้องค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง ทำหนังสือถึงสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ เพื่อรังวัดแนวพื้นที่เขากระชายที่ชัดเจน ซึ่งหากได้ข้อมูลที่ชัดเจน และพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า เจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
