“เมื่อ 1 เดือนก่อน ชุดพยัคฆ์ไพรส่งเจ้าหน้าที่สืบหาข้อเท็จจริง กรณีมีประชาชนแจ้งเบาะแส ว่าสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีการนำไม้ผิดกฎหมายเข้ามาแปรรูป กระทั่งพบข้อมูลที่แน่ชัด ล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้หลายหน่วยงาน นำกำลังเข้าตรวจยึดเครื่องจักร พร้อมอายัดไม้ประดู่ท่อนและแปรรูปอีกจำนวนมาก” นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และขยายผลเอาผิดทั้งขบวนการ กรณีมีประชาชนแจ้งเบาะแสว่าสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
มีการนำไม้ผิดกฎหมายเข้ามาแปรรูป โดยเมื่อ 1 เดือนก่อน เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพรได้ลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง จนทราบข้อมูลที่แน่ชัด ล่าสุดวันนี้ (09.30น.) นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.2 (หนองวัวซอ) เข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้ พื้นที่ตำบลนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ขณะเข้าตรวจสอบพบว่า มีการล็อกประตูทางเข้าออก แต่ด้านในโรงงานยังมีการเดินเครื่องจักรตามปกติ เจ้าหน้าที่จึงติดต่อเจ้าของโรงงาน แต่อ้างว่ามาทำธุระต่างจังหวัด กำลังกลับเข้ามาที่โรงงาน โดยได้มอบหมายให้คนงานเป็นผู้เปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กระทั่ง 15.30 น. มีหญิงคนหนึ่งได้เข้ามาภายในโรงงาน อ้างว่าเป็นผู้ดูแล และเป็นมารดาของเจ้าของกิจการ พร้อมแสดงเอกสารใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร ใบอนุญาตตั้งโรงค้าไม้แปรรูป ใบอนุญาตค้าสิ่งประดิษฐ์ฯ และนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่ามีไม้ประดู่แปรรูป 2 กอง 96 ท่อน/เหลี่ยม มีลักษณะต้องสงสัย จึงได้ขอดูเอกสารบัญชีไม้ ซึ่งอ้างหลักฐานการได้มาของไม้จากที่ดินกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครอง
แต่จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบข้อพิรุธหลายประการ และไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเอกสารที่แสดงเป็นของไม้กองใด ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบไม้ประดู่ท่อนอีก 27 ท่อน ซึ่งจากการตรวจเปรียบเทียบกับบัญชีไม้พบว่า มีขนาดก็ไม่ตรงกัน นอกจากนี้ยังตรวจพบมีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงพบว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดฉบับที่ 18 (พ.ศ.2532) และฉบับที่ 19 (พ.ศ.2539) ออกตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเครื่องจักร 3 เครื่อง เลื่อยโซ่ยนต์ 2 เครื่อง และอายัดไม้ประดู่แปรรูป 96 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 15.71 ลูกบาศก์เมตร ไม้ประดู่ท่อนอีก 27 ท่อน ปริมาตร 21.40 ลูกบาศก์เมตร พร้อมจัดทำบันทึกแจ้งความกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนาข่า เพื่อดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ 2545 ต่อไป
เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขนย้ายเครื่องจักรที่ตรวจยึดออกไป..ยังคงปล่อยให้มีการเปิดใช้งานเครื่องจักรตามปกติ..นับตั้งแต่วันที่โรงงานถูกแจ้งความดำเนินคดี
ฝากท่านผู้มีอำนาจได้โปรดสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายด้วย..ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการส่งเสียงดังรำคาญ และปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ
ทางเราทำการประสานไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวโดยเรียบร้อยแล้วค่ะ