“กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง ทหารกองทัพภาค 4 ติดตามการดำเนินคดีนายทุนรายใหญ่ที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าบนเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี หลังจากตรวจพบมีการนำ สค.1 ไปขอออกโฉนดซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ขณะที่ชุดปฏิบัติการนำอากาศยานขึ้นบินสำรวจพบมีการบุกรุกหลายจุด เตรียมประสานหน่วยงานความมั่นคงเปิดยุทธการกวาดล้างดำเนินคดีทั้งหมด”


วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาค 4 ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่ที่ดินสมุย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบวิวล่าหรู และพื้นที่โดยรอบบนเกาะสมุย ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนของหน่วยความมั่นคง พบว่ามีการนำ สค.1 ไปออกโฉนดซ้ำกันถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกขอออกโฉนด 5 ไร่ ในปี 2550 ต่อมาในปี 2551 มีการ นำสค.1 ไปออกโฉนดเพิ่มอีกกว่า 20 ไร่ และตรวจพบข้อมูลเพิ่มเติม จะมีการนำ สค.1 ฉบับดังกล่าวไปขอออกโฉนดเป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เบื่องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า เอกสารสิทธิ์ที่ดินน่าจะออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนยอดเขา และที่สำคัญเป็นป่าต้นน้ำอีกด้วย

เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันลงพื้นที่จับพิกัดพื้นที่ตามโฉนดที่ดิน เพื่อที่จะหาขอบเขตพื้นที่ที่ชัดเจน นำไปประกอบพยานหลักฐาน ขยายผลเอาผิดกับผู้ครองครอง ขณะเดียวกับเจ้าหน้าที่ตรวจพบพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีการนำเครื่องจักรมาแผ่วถางปรับพื้นที่ ขุดบ่อน้ำขวางลำรางสาธารณะ เพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตน ตรวจสอบพบความผิดฐานปิดกั้นลำรางสาธารณะ และพื้นที่บางส่วนอยู่นอกแปลงโฉนด เจ้าหน้าที่จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ นำอากาศยานไร้คนขับขึ้นบินสำรวจพื้นที่เป้าหมาย พบการบุกรุกเข้าทำประโยชน์หลายจุด ซึ่งได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ทหาร ที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดยุทธการพิทักษ์ป่าสมุย จัดการกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่ารอบเกาะสมุย พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีที่เคยดำเนินการจับกุมไปก่อนหน้านี้ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องอีกด้วย

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *