AFoCO Week 2025: Thirteenth Session of the Assembly and Related Meetings

กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม 2568 กรมป่าไม้ นำโดยนายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายมนตรี อินต๊ะเสน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ นางสาวจุฬาลักษณ์ แก้วสองสี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ นางสาวสินีนิษฐ์ งิ้ววิจิตร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ เข้าร่วมการประชุม AFoCO Week 2025 ซึ่งประกอบด้วย

วันที่ 27 ตุลาคม 2568 การประชุม 3rd Friends of Asia and Asian Forests Forum (FAAF)

วันที่ 28 ตุลาคม 2568 การประชุม AFoCO Partners Dialogue

วันที่ 29-30 ตุลาคม 2568 การประชุม 13th Session of the Assembly of AFoCO

วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวทีหารือร่วมภาคีเครือข่าย AFoCO (AFoCO Partners Dialogue) ภายใต้หัวข้อ “Healthy Forests for Foods: Nourishing People, Sustaining the Planet” (ป่าไม้ที่สมบูรณ์เพื่ออาหาร: บำรุงผู้คน ค้ำจุนโลก)

เวทีหารือร่วมภาคีเครือข่าย AFoCO (AFoCO Partners Dialogue เป็นหนึ่งในสัปดาห์ AFoCO (AFoCO Week)ขึ้นเพื่อเป็นเวทีในการอำนวยความสะดวกสำหรับการหารือเชิงลึกในประเด็นระดับนานาชาติ ซึ่งนำโดยองค์กรระหว่างประเทศและพันธมิตรระดับโลก เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายร่วมกันและการขับเคลื่อนพันธกิจโดยรวมของ AFoCO ซึ่งจะได้ใช้เป็นข้อมูลเชิงกลยุทธ์สำหรับการเสวนาในระดับสูงในเวทีระหว่างประเทศที่สำคัญ เช่น การประชุมหลักของสหประชาชาติ การประชุมสุดยอดระดับโลก หรือการประชุมระหว่างประเทศต่าง ๆ การเชื่อมโยงนี้จะช่วย ยกระดับผลลัพธ์จากระดับภูมิภาคไปสู่เวทีโลก เพื่อให้มั่นใจว่าข้อเสนอที่นำไปสู่การปฏิบัติของ AFoCO และพันธมิตรจะสามารถมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อวาระระหว่างประเทศที่กว้างขึ้นและการตัดสินใจเชิงนโยบายในอนาคต โดยเวทีหารือร่วมภาคีเครือข่าย AFoCO (AFoCO Partners Dialogue) จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Healthy Forests for Foods: Nourishing People, Sustaining the Planet” (ป่าไม้ที่สมบูรณ์เพื่ออาหาร: บำรุงผู้คน ค้ำจุนโลก) เพื่อมอบโอกาสในการสำรวจความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างป่าไม้ ความมั่นคงทางอาหาร และโภชนาการ ตลอดจนการแบ่งปันประสบการณ์ของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มบทบาทของป่าไม้ในการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารและการเกษตรที่ยั่งยืน

วันที่ 27 ตุลาคม 2568 นายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากสำนักการป่าไม้ต่างประเทศ และสำนักแผนงานและสารสนเทศ เข้าร่วมการประชุม “Third Friends of Asia and Asian Forests (FAAF)” ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “From Carbon to Co-Benefits: Rethinking Forest Investment in Asia” (จากคาร์บอนสู่การแบ่งปัน: การทบทวนการลงทุนด้านป่าไม้ในเอเชีย) โดยมีหน่วยงานจากภาครัฐ สถาบันทางการเงิน นักวิจัย และเจ้าหน้าที่ที่กี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม โดยได้หารือร่วมกัน การแลกเปลี่ยนข้อมูล การนำเสนอโครงการนำร่องที่สามารถขยายผลของโครงการได้อย่างประสบความสำเร็จ การส่งเสริมความเข้มแข็งในการรับมีอกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภูมิทัศน์ (Landscape) เพื่อผลประโยชน์ต่อประชาชนและธรรมชาติ

Friends of Asia and Asian Forests (FAAF) เป็นเวทีความร่วมมือเพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งได้จัดการประชุมครั้งแรกขึ้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 โดยรวบรวมภาครัฐ บริษัท องค์กร และองค์กรพันธมิตรจากเกาหลี เพื่อสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) และเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ โดยใช้ประโยชน์จาก Nature-based solutions (แนวทางแก้ไขปัญหาที่อิงธรรมชาติ) ที่มีป่าไม้เป็นเครื่องมือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแบ่งปันนโยบาย แนวโน้ม และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมในภาคป่าไม้ (เช่น โครงการคาร์บอนจากป่าไม้ และโครงการปลูกต้นไม้) ที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ขององค์กรเข้ากับความต้องการด้านการพัฒนาของประเทศในเอเชีย

ทั้งนี้ IUCN ได้นำเสนอโครงการนำร่องที่สามารถขยายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนภาคป่าไม้ (Forest Investment) ทั้งโครงการนำร่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) และในภูมิภาคแปซิฟิก นอกจากนั้นแล้วยังมีโอกาสในการดำเนินโครงการภายใต้ GEF8 โดยได้แนะนำการดำเนินงานที่มีทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างชัดเจน เช่น การลงทุนภาคป่าไม้เพื่อพลังงานทดแทน การฟื้นฟูระบบนิเวศ เป็นต้น

World Economic Forum (WEF) ได้นำเสนอการดำเนินการภาคป่าไม้และสภาพภูมิอากาศ ในการเสริมสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นหลักและการลงทุนด้านการเงินเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่ง WEF ได้เล่งเห็นความสำคัญการลงทุนด้านการเงินภาคป่าไม้ จึงได้มีการสร้างความร่วมมือภายใต้ WEF กับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ศูนย์ต่าง ๆ (Center) การสื่อสาร (communities) การประชุม (Meeting) นโยบายปัญญาประดิษฐ์ (Strategic Intelligence) เป็นต้น

การสัมมนาเรื่อง เส้นทางเพิ่มพื้นที่สีเขียวในทวีปเอเชีย ผ่านการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Road to Greener Asia through Public-Private Partnership) โดยมีผู้เข้าร่วมการเสวนามาจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น World Economic Forum, Save the Children Korea, SK Securities, Cerescom Ltd. เป็นต้น โดยสรุปทุกหน่วยงานเห็นพ้องต้องกันในความสำคัญของการเพิ่มพื้นทีป่าไม้ในเอเชีย และเรียกร้องให้มีการลงทุนร่วมกันระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในเอเชียและเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกัน ในฐานะที่ภาคเอกชนที่เป็นผู้ลงทุนภาคการเงินและภาครัฐและประชาสังคมที่เป็นหน่วยปฏิบัติ และ AFoCO ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ความร่วมมือนี้ ระหว่างรัฐและเอกชน เกิดขึ้นได้และประสบความสำเร็จ   

European Bank of Reconstruction and Development (EBRD) นำเสนอโครงการที่ดำเนินการในเอเชียกลางเป็นส่วนใหญ่ และมีการยกตัวอย่างโครงการ Case study under GEFF: Orchard on the Slope Hills และก็มีกลไกที่อาจเป็นไปได้ในการขอรับการบริจาคเงินผ่านกองทุนเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้

Arukah นำเสนอโครงการ Biochar for Impact: Empowering Communities, Restoring Forests ซึ่งเป็นการทำไบโอชาร์ จากของที่เหลือจากภาคเกษตรกรรม ภาคป่าไม้ หรือภาควนเกษตร เพื่อขจัดความยากจนผ่านโครงการคาร์บอนเครดิต จากไบโอแมส (Circular and Bioeconomy) ซึ่งส่งขายทั่วโลกรวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลาดยังมีความต้องการที่สูงกว่าปริมาณที่สามารถผลิตได้ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะขยายผลของโครงการออกไปได้อีก

Economics of Mutuality Alliance นำเสนอโครงการ MVL for Forestry Value Chain Improvement for Economics of Mutuality

Mars Inc นำเสนอโครงการ Scaling Forest-Positive Sourcing: Lessons from Cocoa and Beyondโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินโดนีเชียที่เคยเป็นประเทศหลักในการส่งออกโกโก้ ได้มีผลผลิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการเข้ามาเพื่อให้เกิดการจัดการป่าอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ยังสนับสนุนโกโก้ในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดการเชิงภูมิทัศน์ภาคป่าไม้และระบบวนเกษตร

SecondMuse นำเสนอโครงการ From Risk to Resilience: Financing Smallholder Transitions through Innovation ซึ่งเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือว่าผู้ประกอบการขนาดเล็กเหล่านี้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจของประเทศ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้