27 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้

นายอำนาจ สุสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางเข้าร่วมประชุม โดยนางสาวพจนีย์ พจนะลาวัณย์ พร้อมด้วย นายพัฒนะ ศิริมัย ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เข้าร่วมประชุมการตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน มีผู้บริหารกรมป่าไม้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยมีประเด็นในการประชุมตรวจราชการ ดังนี้

1. ผลการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวม และผลการดำเนินงานโครงการสำคัญตามภารกิจของหน่วยงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
2. การดำเนินงานตามข้อเสนอความเห็นเชิงนโยบายจากการตรวจราชการ
3. การดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. ผลการขับเคลื่อนร่วมกันของผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ และผู้ตรวจราชการกรม
5. การตรวจติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนคงค้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2567

วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักส่งเสริมการปลูกป่า ชั้น 4 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้

นายอำนาจ สุสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางเข้าร่วมประชุม โดยนายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นปนะธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการประชุมคณะกรรมการการป่าไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ครั้งที่ 31 (The 31st Asia – Pacific Forestry Commission: APFC31) ครั้งที่ 1/2568 การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพร่วมการประชุม Asia-Pacific Forestry Commission (APFC) ครั้งที่ 31 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยมีการติดตามความคืบหน้าการเตรียมการในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การดำเนินงานด้านพิธีการ สถานที่จัดประชุม และการประสานงาน การจัดทำงบประมาณ การวางแผนการศึกษาดูงาน นิทรรศการ และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ การจัดทำร่างคำสั่งกรมป่าไม้ เรื่อง การแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อให้การเตรียมการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๘  เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ห้องประชุมสำนักจัดการทร้พยากรป่าไม้ที่ ๙ สาขา ปราจีนบุรี

นายอำนาจ สุสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง กรมป้าไม้ เร่งรัดการจัดการจัดการเรื่องร้องเรียนคงค้างเชิงรุกของสำนักจัดการทร้พยากรป่าไม้ที่ ๙ สาขา ปราจีนบุรี มีผู้อำนวยการส่วนทุกส่วนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้รายงานและชี้แจงเรื่องร้องเรียนคงค้างในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญได้เร่งรัดเรื่องร้องเรียนที่คงค้างในระบบ จนถึงเดือน ๓๐ กันยายน ปี ๖๗ จำนวน ๑๘ เรื่อง และยังไม่มีเรื่องร้องเรียนที่ต้องตรวจสอบผลการดำเนินการในระบบ e-Petition ประจำปีงบประมาณ ๖๘ ของกองตรวจราชการกระทรวง สป.ทส. เพิ่มเติม มีนายศุภกิจ จันทร์กลั่น ผู้อำนวยการศูนย์นย์บริการประชาชน กรมบำไม้ โดยศูนย์บริการประชาชน กรมป่าไม้ เป็นหน่วยงาน รับผิดชอบหลัก (FOCAL POINT) ในการประสานติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเชิงรุก กรณีเรื่องร้องเรียนคงค้าง/ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยจะเน้นในเรื่องของวิธีการดำเนินการและสอบถามความก้าวหน้าว่าอยู่ในขั้นตอนใด สำหรับการแก้ไขเรื่องร้องเรียนเชิงนโยบายให้สำนักส่วนกลางที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณาตอบในภาพรวมของกรมป่าไม้

เมื่อวันที่ มิถุนายน ๒๕๖๘  เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ห้องประชุมสำนักจัดการทร้พยากรป่าไม้ที่ ๙ ชลบุรี

นายอำนาจ สุสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางเร่งรัดการจัดการเรื่องร้องเรียนคงค้างเชิงรุกของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๙ โดยมีนายทศวารณื วิทยาคมผู้อำนวยการสำนักจัดการทร้พยากรป่าไม้ที่ ๙ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้รายงานและชี้แจงเรื่องร้องเรียนคงค้างในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้เร่งรัดเรื่องร้องเรียนที่คงค้างในระบบ จนถึงเดือน ๓๐ กันยายน ปี ๒๕๖๗ และเหลือเรื่องร้องเรียนที่ต้องตรวจสอบผลการดำเนินการในระบบ e-Petition ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ จำนวน ๔๔ เรื่อง มีนายศุภกิจ จันทร์กลั่น ผู้อำนวยการศูนย์นย์บริการประชาชน กรมบำไม้ โดยศูนย์บริการประชาชน กรมป่าไม้ เป็นหน่วยงาน รับผิดชอบหลัก (FOCAL POINT) ในการประสานติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเชิงรุก กรณีเรื่องร้องเรียนคงค้าง/ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยจะเน้นในเรื่องของวิธีการดำเนินการและสอบถามความก้าวหน้าว่าอยู่ในขั้นตอนใด สำหรับการแก้ไขเรื่องร้องเรียนเชิงนโยบายให้สำนักส่วนกลางที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณาตอบในภาพรวมของกรมป่าไม้

วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้

นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนา “การพัฒนาศักยภาพบุคลากรประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” โดยมี นายอำนาจ สุสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนา เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรของสำนักบริหารกลาง กรมป่าไม้ ได้รับความรู้ ความเข้าใจในทักษะการทำงานและบริการ เสริมสร้างพลังใจในการทำงานและเสริมความคิดบวก ความรักและสามัคคีภายในองค์กร เพื่อพัฒนาการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย นำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร ทั้งนี้ บุคคลากรสำนักบริหารกลางจะได้รับความรู้เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติงานจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “การทำงานร่วมกับคนทุก Gen ให้ประสบความสำเร็จ (Working with Different Generation Employee)” หัวข้อ “การสร้างองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace)” และการจัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ Work hard play hard ซึ่งโครงการจัดการสัมมนาในครั้งนี้จะเสริมสร้างศักยภาพในการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารกลางให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ และร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 11.30 น. ณ ห้องประชุม 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้
นายสุรชัย อจลบุญ อธิดีกรมป่าไม้ ร่วมกับ ศจ. ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วม (MOU) การวิจัย และพัฒนาวิชาการด้านพันธุกรรม และความหลากหลายทางชีวภาพป่าไม้ โดยมี นายณัฐ โก่งเกษร ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ และ ดร.สิทธิโชค ตั้งภัสสรเรือง รองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ และนายอำนาจ สุสุทธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง พร้อมด้วยผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมเป็นเกียรติและเป็นสักขีพยาน โดยการลงนาม MOU ดังกล่าว กรมป่าไม้ และ สวทช. จะผนึกกำลัง 5 ปี ร่วมวิจัย และพัฒนา ขับเคลื่อนภารกิจแบบบูรณาการรวมทั้งองค์ความรู้และนวัตกรรม พร้อมพัฒนาศักยภาพนักวิจัยและนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อความก้าวหน้างานวิชาการด้านพันธุกรรม และความหลากหลายทางชีวภาพป่าไม้ สำหรับความร่วมมือดังกล่าว กรมป่าไม้ และ สวทช. มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพการวิจัยด้านป่าไม้ โดยใช้กลไกการบูรณาการ สนับสนุนเครื่องมือและเทคโนโลยีให้เหมาะสม ทันสมัย รวมทั้งพัฒนาศักยภาพนักวิจัยและนักวิจัยรุ่นใหม่ให้สามารถดำเนินงานวิจัยและสร้างนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการส่งเสริมการนำความรู้ด้านพันธุกรรมและความหลากหลายทางชีวภาพป่าไม้ไปสู่การพัฒนางานวิชาการร่วมกัน อีกทั้งเพื่อบริหารจัดการข้อมูลและตัวอย่างที่ได้จากการศึกษาวิจัยให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์ในทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการักษาและเพิ่มพื้นที่สีเขียว การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในระดับชาติ ต่อไป