พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบ VDO conference วันที่ 29 มกราคม 2564 เวลา 10.00

วันที่ 29 มกราคม 2564 เวลา 10.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบ VDO conference ระหว่างห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล และ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ซึ่งจัดโดยสำนักแผนงานและสารสนเทศ กรมป่าไม้

คณะกรรมการฯ ได้รับทราบรายงานผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการศึกษารายละเอียดและผลกระทบเกี่ยวกับการส่งออกไม้สักสวนป่าและไม้พะยูง พร้อมตั้งข้อสังเกต เพื่อให้หน่วยงานดำเนินการตามข้อสังเกตต่อไป และได้พิจารณาเกี่ยวกับ (ร่าง) แผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ ซึ่งถ่ายทอดเชื่อมโยงจากบทบัญญัติของนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อใช้เป็นแผนแม่บทของหน่วยงานต่าง ๆ และเป็นแนวทางปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายตามที่นโยบายป่าไม้แห่งชาติกำหนดไว้ รวมทั้งได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับ…) พ.ศ. … ซึ่งกำหนดให้ไม้กฤษณาเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก. ไม้หวงห้ามธรรมดา และกำหนดให้ไม้เทียนทะเลเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ข. ไม้หวงห้ามพิเศษ อันเป็นการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้กฤษณาและไม้เทียนทะเลที่ขึ้นตามป่าธรรมชาติ และปกปักษ์รักษาไม้กฤษณาและไม้เทียนทะเลให้คงอยู่

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้รับทราบประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิเพื่อให้ไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวไม่เป็นไม้หวงห้าม พ.ศ. 2563 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ทำให้ไม้ที่ปลูกขึ้นบนที่ดิน ส.ป.ก. และมีหลักฐาน ส.ป.ก. 4-01 ส.ป.ก. 4-01 ก ส.ป.ก. 4-01 ข ส.ป.ก. 4-01 ค ส.ป.ก. 4-01 ช ให้ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม ซึ่งผลของประกาศดังกล่าวจะทำให้ราษฎรที่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ประมาณ 35 ล้านไร่ จำนวนประชาชนประมาณ 2 ล้านราย ที่มีไม้ไว้ในครอบครองจากไม้ที่ปลูกในที่ดินดังกล่าวสามารถตัดหรือโค่นไม้ รวมถึงแปรรูปไม้ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปเพื่อดำเนินการต่อไป