สนธิกำลัง เข้าบังบังใช้กฎหมายกับบริษัทุนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัด และนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ร่วมสนธิกำลังกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมชาติ) ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่วแวดล้อม ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าบังคับใช้กฎหมายกรณีบริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) บุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองปลายพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางบริษัทยูนิวานิชได้เช่าสัมปทานเข้าทำประโยชน์สวนปาล์มน้ำมัน จากกรมป่าไม้ ระยะเวลาในการเช่า 30 ปี เมื่อปี 2526 จำนวน 20,000ไร่ และได้หมดอายุสัญญาเช่าไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2556 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติไม่ให้ต่ออายุสัมปทาน และให้เรียกคืนพื้นที่ทั้งหมด แต่บริษัทยูนิวานิชฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดกระบี่ให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยอ้างว่ามีพื้นที่บางส่วนประมาณ 7,108 ไร่กำลังอยู่ในระหว่างยื่นขอรังวัดเตรียมออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. และขอสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ก่อนมีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ สาลจังหวัดกระบี่จึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 โดยห้ามไม่ให้กรมป่าไม้เข้ารบกวนสิทธิืในการครอบครองทำประโยชน์ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ต่อมากรมป่าไม้ได้ยื่นคัดค้านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กระทั่งเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ศาลจังหวัดกระบี่มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองชั่วคราว และให้ดำเนินการผลักดันผู้ครอบครองออกจากพื้นที่
เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ได้เข้าไปดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีครั้งหนึ่งแล้ว และได้ให้ระยะเวลาบริษัทยูนิฯทำการขนย้ายทรัพย์สินพร้อมกล้าปาล์มออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้วกว่า 30 วัน แต่ทางบริษัทยูนิฯฝ่าฝืนกฎหมาย ยังเข้ายึดครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวต่อ ทั้งนี้ยังพบว่า บริาัทฯได้ดำเนินการเพาะกล้าปาล์น้ำมันกว่า 700,000 กล้า ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่
จากการเข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 พบว่า บริษัทยูนิฯได้มีการปิดกั้นสถานที่ โดยใช้กุญแจและโซ่ล่ามรั้วอาคารสถานที่ ส่วนบ้านพักคนงานพบว่ามีการปิดล้อกอย่างแน่นหนา พร้อมทั้งมีการเปิดไฟบริเวณบ้านพักคนงานไว้ตลอดแนว และบริเวณแปลงกล้าปาล์มน้ำมันยังคงมีกล้าปาลืมเพาะเลี้ยงอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ จัดทำบันทึกเพื่อนำไปลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวนเป็นหลักบาน และประกอบพฤติการณ์ในคดีที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว ทั้งนี้นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้สั่งการจัดเวรยามเผ้าควบคุมพื้นที่เพื่อมิให้บริษัทยูนิฯเข้าทำประโยชน์ 2 แปลง คือ แปลงที่ตั้งอาคารสำนักงานและบ้านพักคนงาน จำนวน 28 ไร่เศษ และแปลงเพาะพันธุ์กล้าปาล์มน้ำมัน 288 ไร่เศษ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.