นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.)

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ รมว.ทส. ได้มีข้อสั่งการให้ 3 หน่วยงาน คือ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งทำงานเชิงรุกโดยเน้นการป้องกันและตรวจตราอย่างเข้มงวด มิให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม รวมถึงร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนในการร่วมกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) กล่าวว่า กรมป่าไม่ได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของ รมว.ทส. ได้กล่าวถึง สถานการณ์การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดตาก ซึ่งได้รับข้อมูลทางด้านการข่าวรายงานว่ามีขบวนการของกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลังในการจ้างชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปดำเนินการตัดไม้สักทองขนาดใหญ่ในพื้นที่ จำนวนนับ 100 ต้น ซึ่งเป็นที่มาในการเข้าปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเมื่อวันที่ 5มิ.ย. 63 ที่ผ่านมาได้สั่งการให้นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผอ.สจป.ที่ 4 (ตาก) ร่วมกับ ศปก.พป. , ปค.จ.ตาก , กอ.รมน.จว. ตาก ,ทสจ.ตาก , สจป.ที่ 4 (ตาก) , สบอ. 14 (ตาก) , กก.ภ.จว.ตาก , ปค.อ.แม่สอด , กก. 4 บก. ปทส. , มฑบ. 310, ฉก.ร. 4 , ตชด. 346 และผู้นำท้องถิ่น ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบบ้าน จำนวน 5 หลัง ตามที่ได้ขอหมายค้น ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2563 จากศาลจังหวัดแม่สอด จากการตรวจสอบพบว่ามีการนำไม้สักแปรรูปที่มีลักษณะสด ใหม่ หลายขนาด ถูกแปรรูปด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ไม่มีรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ นำมาตีแปะประกอบเป็นฝาบ้าน โดยหัวไม้เกยกันและบางส่วนถูกวางทับไว้บนพื้นฟาก จากการสอบถามผู้รับหมายและนำตรวจสอบ ให้ข้อมูลกับคณะเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีหลักฐานการได้มาของไม้ดังกล่าวทั้ง 5 หลัง จึงได้ทำการตรวจยึดไม้สักแปรรูป โดยบ้านหลังที่ 1 ตรวจยึดไม้สักแปรรูป จำนวน 27 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.56 ลบ.ม. บ้านหลังที่ 2 ตรวจยึดไม้สักแปรรูป จำนวน 84 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.36 ลบ.ม.บ้านหลังที่ 3 ตรวจยึดไม้สักแปรรูป จำนวน 18 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.407 ลบ.ม. บ้านหลังที่ 4 ตรวจยึดไม้สักแปรรูป จำนวน 56 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.65 ลบ.ม. และบ้านหลังที่ 5 ตรวจยึดไม้สักแปรรูป จำนวน 89 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.80 ลบ.ม.รวมตรวจยึดไม้สักแปรรูป จำนวน 274 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 5.777 ลบ.ม. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและจัดทำบันทึกตรวจยึด พร้อมทั้งได้ร้องโทษกล่าวทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พะวอ เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ รมว. ทส. สั่งการให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขยายผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจะได้ติดตามดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดมาลงโทษตามระเบียบและกฎหมายให้ถึงที่สุด และให้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทั่วประเทศ ให้มีการออกลาดตระเวน เฝ้าระวังบุคคลมิให้มีการบุกรุกและแอบเข้าไปลักลอบตัดไม้ ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการดูแลรักษาและเฝ้าระวังป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว

Leave a Comment

Skip to content