“เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาการลักลอบขุดบุก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต หลักจากพบข้อมูลว่า มีการลักลอบเข้าไปขุดบุกในเขตป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนออกมาขายในพื้นที่จังหวัดตาก และลำพูนเป็นจำนวนมาก”


นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ร่วมประชุมหารือกรณีการลักลอบขุดหาบุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการนำบุก เคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑ สาขาแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๔ (ตาก) และเจ้าหน้าที่ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑ สาขาแม่อ่องสอน ตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา และผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายชีวะภาพ ชีวะธรรม

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการอนุญาตเก็บหาของป่า ๑ ชนิด คือ บุก อนุญาต ๒๒ ราย ในเขตจังหวัดตาก มีการอนุญาตเก็บหาของป่า ๓ ชนิด (บุก หน่อไม้ และลูกตาว) โดยบุก อนุญาต ๒๑ ราย หน่อไม้ อนุญาต ๔๕ รายลูกตาว อนุญาต ๗ ราย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดตรวจขันจนพบข้อมมูลว่า การนำของป่าเคลื่อนที่ส่วนใหญ่มีใบอนุญาต แต่ไม่มีใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่มาแสดง ผู้ได้รับอนุญาตเก็บหาของป่าไม่มีใบคู่มือคนงาน รวมถึงผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตเก็บหาของป่า ไม่ทราบระเบียบ เงื่อนไขและแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่ชัดเจน และจากการตรวจสอบราคาผลผลิตบุก ท้องที่จังหวัดตาก จังหวัดลำพูน และจังหวัดแม่ฮ่องสอนแตกต่างกัน โดยจังหวัดตาก และจังหวัดลำพูน มีราคาสูงกว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงทำให้มีการลักลอบขนบุกออกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปขายยังจังหวัดตากและจังหวัดลำพูน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าต้องได้รับอนุญาตการเก็บหาของป่า และมีใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ เพื่อนำของป่าเคลื่อนที่มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ช่องทางการนำเคลื่อนที่ออกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีหลายเส้นทาง ทำให้ผู้ลักลอบขนหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้ง่าย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยให้มีการกำหนดตลาดกลางให้ชัดเจนว่า ประชาชนสามารถนำบุก มารวมกองที่ใดได้บ้าง เพื่อเจ้าหน้าที่ออกใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ จะได้มาทำการตรวจวัดปริมาตร และคำนวณค่าภาคหลวง และดำเนินการออกใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ได้อย่างถูกต้อง และให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตั้งด่านสกัดการลักลอบนำเคลื่อนที่ซึ่งของป่า โดยผิดกฎหมาย และจัดตั้งชุดลาดตระเวน หากพบการกระทำผิดกฎหมายให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยเคร่งครัด

กำหนดเงื่อนไขของหน่วยงานที่อนุญาต และฝ่ายปกครองท้องที่ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑๐๗ (พ.ศ.๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ ว่าด้วยการเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการอนุญาตเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ โดยได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมป่าไม้ก่อน สำหรับบุกที่ปลูกขึ้นในที่ดินซึ่งมีเอกสารแสดงสิทธิทางที่ดินตามกฎหมายที่ดิน และที่ดินที่รัฐได้อนุญาต ควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรแจ้งขึ้นทะเบียนว่าด้วยทะเบียนเกษตรกร กับหน่วยงานท้องที่ และมีสำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ทะเบียนเกษตรกร ประกอบการนำเคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเคลื่อนที่

ที่สำคัญจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จะเก็บหาของป่า จำพวกบุก หน่อไม้ ลูกตาว ทราบถึงขั้นตอนการอนุญาต และการนำเคลื่อนที่ว่าต้องมีเอกสารใดบ้าง ซึ่งหากมีการดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ทราบแล้ว ยังมีการฝ่าฝืนระเบียบและกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ต่อไป โดยขอให้ผู้ออกใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมทั้งให้มีการขึ้นบัญชีดำ สำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตเก็บหาของป่าที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขการอนุญาต และกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตลอดทั้งขึ้นบัญชีกลุ่มผู้ที่ลักลอบค้าของป่าอย่างผิดกฎหมาย และแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาต และติดตามเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ท้องที่ประสานการปฏิบัติกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท้องที่ และฝ่ายปกครองดำเนินการ

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *