ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป) เข้าดำเนินการต่อผู้บุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินป่าไม้ บริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ ว่ามีการก่อสร้างอาคารรีสอร์ต และลานกางเต้นท์ ยึดพื้นที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยว ตรวจสอบพบบางรายเป็นบุคคลเดิมที่เคยถูกดำเนินคดี แต่ยังกลับมาสร้างใหม่โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง


โดยตั้งแต่วันที่ 9 -10 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ลงพื้นที่ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกบริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก โดยใช้กลไกขับเคลื่อนของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าสั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปป.4กอ.รมน. นายอัครชัย อาสุ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (สาขาพิษณุโลก) และนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งป่าไม้และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจากกรณีที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ พบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่บริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก มีการฝ่าฝืนก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นในบริเวณนี้ และตรวจสอบพบบางรายบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่ซึ่งเคยถูกดำเนินดคี และศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยและบริวาร ออกจากพื้นที่บุกรุก และภาครัฐได้ใช้คำสั่ง คสช.ที่35/2559 รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกนอกพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลเข้ามาบุกรุกยึดถือครอบครอง และก่อสร้าง รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ เพื่อบริการนักท่องเที่ยว บางรายตรวจสอบพบเป็นบุคคลเดิมที่เคยถูกดำเนินคดีแล้ว โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และเป็นพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้

จากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตรวจยึดจับกุมกลุ่มบุคคลที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ จำนวน 3 คดีประกอบด้วย รวมเนื้อที่ 9 ไร่เศษ และทางฝ่ายปกครองได้ร่วมตรวจสอบแจ้งความเพิ่มดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 และพ.ร.บ.โรงแรม 2547 ทุกราย

ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันติดประกาศตามคำสั่ง คสช.ที่35/2563,ทั้ง 3 แปลง เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ออกจากพื้นที่เพื่อฟื้นฟูพื้นที่กลับมาดังเดิม นอกจากนี้ชุดปฏิบัติการได้ขยายผลตรวจสอบพบการบุกรุกยึดถือครอบครอง ก่อสร้างรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศเพิ่มอีก 5 จุด ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยขณะเข้าตรวจสอบพบคนงานจำนวนมากกำลังก่อสร้างต่อเติมอาคารหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้ากระจายกำลังควบคุมจับกุมได้ผู้กระทำผิดเป็นคนงานจำนวน 20 คน และตรวจสอบพบเจ้าของรีสอร์ตในที่เกิดเหตุ 2 รีสอร์ตในที่เกิดเหตุโดยตรวจสอบพบว่า 2 รายดังกล่าว เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีมาแล้ว ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษให้จำคุก และโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มาแล้ว ส่วนสิ่งก่อสร้างเดิมได้ถูกรื้อถอนออกไปหมดแล้ว แต่ได้กลับมายึดถือครอบครองก่อสร้างในที่เดิม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด มาจัดทำบันทึกดำเนินคดี ตามระเบียบของกฎหมายต่อไป

แสดงความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *